หาก ปั๊มลมไม่ทำงาน (ไม่สตาร์ทเลย) อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ โดยอาการนี้พบได้บ่อยทั้งใน ปั๊มลมลูกสูบ และ ปั๊มลมสกรู ต่อไปนี้คือสาเหตุหลัก ๆ ที่ควรตรวจสอบ:หาก ปั๊มลมไม่ทำงาน (ไม่สตาร์ทเลย) อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ โดยอาการนี้พบได้บ่อยทั้งใน ปั๊มลมลูกสูบ และ ปั๊มลมสกรู ต่อไปนี้คือสาเหตุหลัก ๆ ที่ควรตรวจสอบ:
สาเหตุที่ทำให้ปั๊มลมไม่สตาร์ทประเภทปัญหา รายละเอียด
- ไม่มีไฟเข้าเครื่อง - เบรกเกอร์ไม่ทำงาน / OFF- สายไฟหลุดหรือเสียบไม่แน่น
- 2. แรงดันไฟฟ้าต่ำ / ไฟตก - ไฟไม่พอขณะสตาร์ท ทำให้ overload ตัด- ไฟ
- 3 เฟสหายเฟส 3. ระบบป้องกัน overload ตัด - มอเตอร์ร้อนเกิน- ใช้งานหนักเกินกำลัง- overload relay ตัดอยู่
- 4. Pressure switch เสีย - ตัดไม่ยอมสั่งทำงานแม้แรงดันต่ำแล้ว
- 5. ปุ่ม Emergency Stop ถูกกดไว้ - ปั๊มลมบางรุ่นมีปุ่มฉุกเฉิน หากไม่ได้ reset จะไม่ทำงาน
- 6. มอเตอร์เสีย / คาปาซิเตอร์เสีย (ในรุ่นไฟ 1 เฟส) - มอเตอร์ไม่หมุน- คาปาซิเตอร์สตาร์ทไม่ทำงาน
- 7. ระบบควบคุม (PLC/Controller) มี error - รุ่นที่เป็นดิจิทัลหรือสกรู มีโค้ด error ต้องเคลียร์ก่อนเริ่ม
- 8. เซ็นเซอร์ความดันเสีย / ลัดวงจร - เครื่องอาจเข้า safety mode ทำให้ไม่ยอมเริ่มทำงาน
- 9. คอมเพรสเซอร์หรือลูกสูบติด - ชิ้นส่วนภายในติดหรือล็อก → มอเตอร์หมุนไม่ออก
แนวทางการตรวจสอบเบื้องต้น:ดูไฟเข้า: ใช้มัลติมิเตอร์วัดไฟที่ขั้วเข้าเครื่อง ว่ามีแรงดันหรือไม่
ดูว่า overload ตัดหรือไม่: หากมี overload relay อาจต้อง reset
ดูว่า Pressure switch สั่ง ON หรือไม่: บางรุ่นมีเสียง “ติ๊ก” ตอนสั่งให้ทำงาน
ลองหมุนมอเตอร์ด้วยมือ (ถ้าปลอดภัย): ถ้าหมุนไม่ออก แสดงว่าระบบติด
ดูไฟสัญญาณ / หน้าจอแสดงผล (ถ้ามี): มี error code อะไรขึ้นหรือไม่
ตรวจ Emergency Stop: ปล่อยหรือหมุนคลายออกก่อนลองเปิด
หากยังไม่แน่ใจ:ถ้าคุณสามารถระบุได้ว่าเป็นปั๊มลม ยี่ห้อ/รุ่นอะไร, เป็นแบบ ลูกสูบ / สกรู, ใช้ไฟ 1 เฟส หรือ 3 เฟส, และอาการตอนกดปุ่มสตาร์ทเป็นอย่างไร (เช่น “มีเสียง ฮึ่ม แล้วดับ” หรือ “เงียบสนิท”) ผมจะสามารถช่วยไล่ปัญหาให้เจาะจงและตรงจุดมากขึ้น