Last updated: 5 พ.ค. 2568 | 5 จำนวนผู้เข้าชม |
คุณควรซื้อปั๊มลม พร้อมถังลมที่มีขนาดใหญ่ หากคุณวางแผนที่จะทำงานกับเครื่องเป็นเวลานานหลายชั่วโมง ปั๊มลมแบบสายพาน เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการทำงานหนักและยาวนานแม้ว่า มันจะผลิตลมได้ช้าก็ตามแต่ในแง่ความทนทาน ปั๊มลมชนิดนี้ ทำได้ดีมากๆ
หากคุณต้องการปั๊มลมสำหรับงานส่วนตัวและงานขนาดเล็ก ปั๊มลมแบบ ออยฟรี และ แบบโรตารี่ค่อนข้างเหมาะสม กับการใช้งานมากกว่าเนื่องจากการผลิตลมที่เร็ว ซึ่งความเร็วนี้เองที่จะมาชดเชยขนาดถังของมัน ดังนั้นมันจึงเหมาะสมกับการใช้งาน เป็นบางครั้งคราวที่ไม่ได้ใช้ประจำนั่นเอง
คุณควรพิจารณาซื้อปั๊มลม ที่มีวาล์วข้อต่อสวมเร็ว ข้อต่อประเภทนี้จะทำให้คุณใส่หัวฉีดที่แตกต่างกันได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งหมายความว่าคุณจะสามารถเปลี่ยนเครื่องมือลมได้อย่างง่ายดาย และเลือกใช้เครื่องมือลมได้อย่างหลากหลายประเภท
ปั๊มลม เป็นเครื่องมือที่มีความหลากหลายทั้งในเรื่องของ ขนาด ระบบ และวัตถุประสงค์ในการใช้งาน และหากคุณใช้ปั๊มลมที่มีขนาดเล็ก การพกพาก็จะเป็นจุดสำคัญที่ควรทราบเมื่อซื้อปั๊มลม ก่อนซื้อคุณควรตรวจสอบ และทำให้แน่ใจว่าปั๊มลม ที่คุณกำลังซื้อ มาพร้อมกับล้อและมือจับที่แข็งแรง ซึ่งสามารถใช้ในการเคลื่อนย้ายได้อย่างง่ายดาย เป็นความคิดที่ดี ที่จะซื้อรุ่นใดรุ่นหนึ่งพร้อมอุปกรณ์เสริม เช่น สายต่อแบบยาวหรือท่อลม อุปกรณ์เสริมเหล่านี้ทำให้ง่ายต่อการใช้งาน ปั๊มลม ในตำแหน่งต่างๆ และนี่คือ ปั๊มลม PUMA ที่ดีที่สุดที่ที่คุณต้องมีไว้ใช้งาน.
ปั๊มลม PUMA สำหรับใช้ในอู่รถยนต์
เรามาเริ่มกันที่ปั๊มลม ยอดนิยมสำหรับงานช่างในอู่ กันก่อนเลย ปกติแล้วในอู่รถยนต์ มักจะไม่ได้เคลื่อนย้ายปั๊มลมไปไหนและตั้งไว้กับที่ แต่งานในอู่รถยนต์ต้องการใช้งานที่หลากหลาย เช่น พ่นสี เติมยาง ใช้ขับบล็อกลมเพื่อขันล้อ พ่นทราย หรือแม้แต่เอาไปใช้กับลิฟย์ยก ก็ตาม จึงทำให้ลักษณะการใช้งานของปั๊มลมมีลักษณะใช้งานต่อเนื่องกันทั้งวันและต้องการปริมาณลมที่มากเพียงพอต่อการทำกิจกรรม ทั้งหมดในอู่รถยนต์ เราจึงขอแนะนำ
ปั๊มลม PUMA รุ่น PP-23P PM มอเตอร์ PUMA 3 HP ถัง 260 L.
เป็นปั๊มลมขนาดกลางค่อนใหญ่ ขนาด 3 HP 2 สูบ สามารถทำงานได้ต่อเนื่อง ระบบลูกสูบออกแบบให้สามารถผลิตลมได้เร็วขึ้น เหมาะสำหรับงานเป่าฝุ่น เติมลมรถทั่วไป ซ่อมรถมอเตอร์ไซค์ อู่ซ่อมรถยนต์ ร้านปะยาง งานคาร์แคร์ งานอุตสาหกรรม และสามารถใช้งานกับเครื่องมือลมต่างๆ ได้
หัวสูบใช้วัสดุเหล็กหล่อ และมีระบบระบายอากาศหัวลูกสูบด้วยครีบระบายความร้อน จะทำให้ไม่เกิดความร้อนสะสม และสามารถใช้งานได้ต่อเนื่อง พร้อมทั้งออกแบบมาเพื่อให้ดูแลรักษาได้ง่าย สินค้าได้ผ่านการ QC ทุกชิ้นก่อนที่คุณจะนำไปใช้งาน.
การบำรุงรักษา และข้อควรระวัง
ควรทำความสะอาดปั๊มลมภายนอกอย่างสม่ำเสมอเพื่อดูว่ามีสิ่งผิดปกติอะไรบ้าง เช่น น้ำมันรั่ว หรือฝุ่นที่จะเข้าไปในตัวเครื่องก่อให้เกิดสิ่งสกปรกสะสม
ควรเลือกใช้น้ำมันเครื่องของปั๊มลม เพราะหากเติมน้ำมันหล่อลื่นชนิดอื่นเข้าไปผสม อาจจะส่งผลเสียกับชิ้นส่วนภายในปั๊มลมได้
ควรเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องทุกๆ 500 ชั่วโมง หรือเมื่อสีของน้ำมันเริ่มคล้ำขึ้นนั่นเอง
ควรเปิดวาล์วเดรนน้ำใต้ถังลมอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง เพื่อยืดอายุการใช้ของถังลม
ไม่ควรติดตั้งปั๊มลมในพื้นที่ๆ ลาดชันและถ่ายเทความร้อนได้ไม่ดีเพราะจะทำให้ความร้อนสะสมในบริเวณนั้นสูงขึ้น และทำให้อุณหภูมิโดยรอบปั๊มลมร้อนเกินไป
ตรวจสอบน็อตว่าขันแน่นทุกตัว เช่น น็อตยึดมู่เล่ย์ น็อตยึดมอเตอร์ เป็นต้น
28 เม.ย 2568
29 เม.ย 2568
2 พ.ค. 2568